Attack on titan
จบแล้วววว มหากาพย์ยาวนาน 10 ปี สำหรับอะนิเมะเรื่องนี้ จำได้ว่าโอบุเป็นคนซื้อการ์ตูนเรื่องนี้ให้ (เล่ม 1)ยัดเยียดปนบังคับให้อ่าน เออ อ่านแล้วก็ติดจริงๆ
จนกระทั่งฉายเป็นอะนิเมะแล้วก็เป็นแฟนเหนียวหนึบ ติดตามมาจนถึงตอนสุดท้ายเมื่อต้นเดือนพฤศจิกา ตอนจบนี้อึนใจมากจนรอให้ตกกระกอนก่อนค่อยเขียนถึง
เป็นเรื่องที่รักมาก อาจเพราะผูกพันธ์มากัน 10 ปีมั๊ง
และเฝ้ารอให้มีค่ายสักค่ายทำ 20th century Boy บ้าง อยากดูในเวอร์ชั่นอะนิเมะแบบนี้
.................................................
เมื่อมนุษย์กลุ่มสุดท้ายของโลกถูกขังในกำแพงหนาสูงเพื่อหนีจากพวกไททัน ยักษ์กินคนข้างนอก อยู่ภายในก็สงบสุขดีแต่ใจมันยังเจตจำนงค์อิสระที่อยากรู้ว่าโลกภายนอกนั้นยิ่งใหญ่เพียงไร จึงได้มีหน่วยสำรวจเกิดขึ้น ซึ่งในทุกการสำรวจแต่ละครั้งจะมีคนรอดกลับมาเพียง 1/3 เสมอ เกิดคำก่นด่า เกิดคำครหามากมายจากชาวเมืองที่เสียภาษี แต่ในเมื่อยังมีความหวังจึงไม่มีทางที่จะล้มเลิกง่ายๆ
จนกระทั่งกำแพงเมืองที่ว่าแข็งแกร่งได้ถูกทำลายโดยไททันมหึมา ความตื่นกลัวและการตื่นตัวทำให้หน่วยสำรวจมีความหมายมากขึ้น และมีความหมายขึ้นไปอีกเมื่อเอเรน เด็กหนุ่มในกลุ่มสำรวจเป็นไททันเสียเอง
มนุษย์และความอยากรู้เป็นของคู่กัน ทั้งมนุษย์ในเรื่องและมนุษย์คนดูอย่างเรา ความสงสัยของการกำเนิดไททัน การกำจัดไททัน โลกภายนอก ทะเล หิมะ อิสระบนฟากฟ้า อิสระแห่งการใช้ชีวิตมันช่างยิ่งใหญ่ แต่การถูกจำกัดภายในกำแพงเพราะความเชื่อที่ว่าภายนอกอันตรายมันไม่พอ การปฏิวัติความเชื่อจึงเกิดขึ้น
ส่วนที่ 1 เอเรน มิคาสะ อาร์มิน เป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก โดยมีเอเรนเป็นหัวโจก มิคาสะเด็กสาวจอมพลังเป็นมือขวา และมีอาร์มินผู้ปราดเปรื่องเป็นคู่หู ทั้ง 3 คนอาศัยอยู่ในเขตที่ 1 จนกระทั่งกำแพงได้ถูกทำลาย การสูญเสียบิดา มารดา ครอบครัวทำให้ทั้ง 3 เข้าร่วมกลุ่มสำรวจนอกกำแพงด้วยจุดประสงค์ต่างกัน เอเรนต้องการทำลายไททันทุกตัวบนโลกนี้เพราะไททันกินแม่เขา มิคาสะต้องการติดตามเอเรนที่เป็นครอบครัวหนึ่งเดียว ส่วนอาร์มินนอกจากติดตามเพื่อนรักทั้งสองแล้วยังต้องการเห็นทะเลสักครั้ง
ในส่วนที่หนึ่งนี้ เราจะรู้จักไททันผ่านสายตาชาวเมืองเอลเดีย เห็นการฝึกซ้อม การตั้งรับ การสูญเสีย ความเชื่อ ความเห็นแก่ตัว การบ้าอำนาจ การเมืองที่เข้มข้น ซึ่งพอดูแล้วก็ร้องเอ๊ะขึ้นเป็นระยะๆ เพราะเหมือนที่ตนประสบอยู่ในทุกวัน เมื่อจู่ๆเอเรนกลายเป็นไททันไม่รู้ตัว แต่เป็นไททันบรรพบุรุษที่ช่วยให้เมืองรอดพ้นอันตราย เอาล่ะ การแก้ปริศนาไททันเอเรนได้เกิดขึ้น ภารกิจบุกห้องทำงานใต้ดินของพ่อเอเรนที่เป็นหมอสำเร็จ เราได้รู้ความลับอีกด้านหนึ่ง
ส่วนที่ 2
“จากนั้นการสร้างจักรวรรดิเอลเดียเริ่มต้นขึ้น เอลเดียบุกทำลายมาเลย์จนสามารถยึดครองดินแดนได้สำเร็จ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของยุคมืด ร่างแยกที่ได้รับพลังไททันรุกรานเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่ด้อยกว่าและเริ่มกดขี่พวกเขา ขโมยที่ดิน ทรัพย์สิน กำจัดประชากรทิ้ง บังคับให้เผ่าพันธุ์อื่นคลอดลูกเพื่อเพิ่มจำนวนผู้สืบทอดพลังไททัน จนกระทั่งชาวมาเลย์ได้ออกอุบายทำลายจากภายใน อีกทั้งยังสามารถควบคุมพลังไททัน 7 ใน 9 จนเอาชนะสงครามไททันได้สำเร็จ กษัตริย์ฟริทซ์จึงอพยพชาวเอลเดียไปยังเกาะสวรรค์แล้วสร้างกำแพงสามชั้นให้ผู้คนอาศัยอยู่ในนั้น”
นี่คือเรื่องเล่าชาวแผ่นดินใหญ่ที่ชื่อมาเรย์เล่าให้ลูกหลานฟังสืบมา ชาวเอลเดียส่วนหนึ่งที่อาศัยในเมืองมาเรย์เป็นพลเมืองชั้นสอง ถูกดูถูก เดียดฉันท์ อย่างรุนแรงชนิดที่ไม่คาดคิดว่านุษย์จะทำกันได้ ทำให้ชาวเอลเดียต้องถีบตัวเองขึ้นมาให้เท่าเทียมกับชาวเมืองอื่นโดยการเข้าร่วมรบและเป็นไททัน โดยในการเป็นไททันนั้นครอบครัวจะได้รับเกียรติและถูกปฏิบัติเป็นอย่างดี โดยชาวเอลเดียก็แบ่งเป็น 2 พวก พวกแรกคือคนที่ขึ้นตรงกับชาวมาเรย์ พวกที่ 2 คือคนที่ต้องการฟื้นฟูกำลังชาวเอลเดียกลับมา ซึ่งในส่วนที่ 2 นี้เราจะเห็นการทรยศ หักหลัง ผลพวงของ Propaganda ที่นำไปสู่การเกลียดชัง
ส่วนที่ 3 เมื่อเอเรนรับรู้ถึงชาติกำเนิด ความเกลียดชังที่ชาวเอลเดียถูกกระทำ ความรักที่มีต่อพวกพ้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย เขาต้องการจบปัญหา จึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำสงครามกับคนทั้งโลก
.......................................................
AOT นี้เป็นอะนิเมะที่แฟนซี ผสานกับเรื่องราวประวัติศาสตร์มนุษย์ได้อย่างแยบคาย ความบ้าครั้งในอำนาจ การแบ่งชนชั้น ความเชื่อ การเมือง การกดขี่ และการปลดปล่อย เอาละในเมื่อมันไม่ใช่อะนิเมะไทยเราก็ต้องยอมรับว่าการเมืองที่แสนสกปรกนั้นมีทุกประเทศ
สิ่งที่ทำให้เรารักและผูกพันธ์ตัวละครมากคือการที่อาจารย์ ฮาจิเมะ ลำดับเรื่องราวให้เรารู้จักตัวละครและใส่ใจในรายละเอียด ผูกเรื่องราวชนิดที่เมื่อย้อนกลับมานั่งดูอีกครั้งก็ร้อง ว้าว การตัดสินใจของตัวละคร บทบาทความรับผิดชอบ ความสมจริงในการตัดสินใจนั้นๆ การได้นั่งดูเด็กกลุ่มหนึ่งผ่านเรื่องราวร้ายๆ เติบโตเหลือรอดมาจนโลกสงบสุขก็อดปลื้มใจไม่ได้ ค่ะ ใครอยากเป็นแม่ยก Blackpink BTS ก็เป็นไป นี่แม่ยกกลุ่มสำรวจ ทุกตัวละครมีสีเทาแต่จุดประสงค์คือเพื่อเผ่าพันธุ์ตัวเอง นั่นทำให้บางตัวละครรักไม่ได้แต่ก็เกลียดไม่ลง
ยกเครดิตให้ MAPPA สตูดิโอผู้สร้าง 2 มิติออกมาเป็น 3 มิติ และทำอออกมาได้ดีด้วย ใครที่เคยคิดว่าอะนิเมะมันเด็กๆ ขอให้ดูฉากเปิดตัวโหนตัวโรยตัวต่อสู้กับไททันในภาคแรกก่อน แล้วการดูอะนิเมะจะเปลี่ยนไปตลอดกาล (นับจากฉากนี้ออกไปกลายเป็นว่าอะนิเมะค่ายอื่นๆก็ใส่พลังกันเต็มที่ไปเลย) ทางค่ายทำงานเต็มที่และอย่างดีมาก กราบงาม ถึงแม่ตอนนี้มีข่าวว่าเอาเปรียบพนักงานก็เถอะ 555+
................................................
ในเรื่อง เราเฝ้าสงสัยมาตลอดว่าเอเรนรักมิคาสะบ้างไหม เพราะมิคาสะนี่คลั่งรักเอเรนทุกลมหายใจ จนกระทั่งตอนจบนี่แหล่ะที่เอเรนคุยกับอาร์มินในสายธารความทรงจำ ถึงทำให้รู้ว่ารักมาก รักมาตลอด หวงมากด้วย แต่แสดงออกไม่ได้เพราะจะผิดแผน ทำได้แต่นิ่งใส่ งืออออออออออออออ อยากให้พูดให้มิคาสะได้ยินสักครั้ง
อีกตัวละครที่ชอบมาก แพ้ทางมากคือ เออร์วิน สมิธ หัวหน้ากองสำรวจฝีมือเทพ รักพวกพ้อง เข้มขรึม ฉลาด มีความรับผิดชอบ และมีเป้าหมาย แพ้มาก แพ้จริง ฟีลแด๊ดดี้ใจดี เออ ทำไมแพ้ผู้ชายอย่างนี้ก็ไม่รู้
อีกคนที่ละสายตาไม่ได้คือรีไว (สำอร) นี่เอง ด้วยสายเลือดแอคเคอร์แมน ทำให้เก่งเกินมนุษย์มนา บุคลิกเข้มขรึม ปากดี ท้าตีทุกคน แต่บูชาเออร์วิน มีชีวิตอยู่เพราะคำสัญญาที่ให้กับเออร์วินว่าจะแก้ไขปริศนาไททันให้ได้ เป็นคนที่เด็กหมั่นไส้และรักในเวลาเดียวกัน ทำไมสร้างตัวละครได้มีเสน่ห์ขนาดนี้ก็ไม่รู้
จริงๆชอบหลายตัวละครเลยแต่ชอบสุดคือเออร์วิน ชอบตัวละครชายที่พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็มีซิกแพคทุกคน เอ็นดู
เอาไว้ใจดีๆ จะดูอีกรอบ ตอนจบนี่ทำป้าช้ำใจมากไป