Wednesday, November 29, 2023

Soft Power

 หลังการตั้งรัฐบาล เราก็คาดหวังมาเรื่อยๆเนืองๆว่า การเมืองไทยจะดีขึ้นสักที อย่างน้อยการเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตยก็ทำให้เราด่ากันน้อยลง 

แต่ที่ผ่านมาเรารู้สึกได้ว่า นักการเมืองและคนที่ได้รับเลือกเข้ามาในการทำหน้าที่เหล่านี้ ยังคงไม่ได้ใส่ใจในการบริหารประเทศอย่างจริงจัง หลายสิ่งหลายอย่างยังคงได้แต่ส่ายหน้า ระอากันไป เอาน่า เขาเพิ่งเริ่ม รอดูอีกสักพักน่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น

เริ่มที่จับต้องได้ก่อน ที่ยังเป็นนโยบายและยังไม่ได้ประกาศใช้ เราจะยังไม่บ่นในตอนนี้ 

Soft Power  
จริงๆแล้วไทยมีศักยภาพในการส่งเสริม Soft power มากๆ มานานหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็นอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ศิลปะ วิถีชีวิต เพลง หนัง  หรือแม้แต่ผู้คน แต่เหมือนไม่ได้รับการสนับสนุนจริงจัง เราจะเห็นแค่โฆษณาแล้วจบไป นานๆเห็นทีด้วยนะ แต่ Soft power ไทยที่เข้มแข็งมากตอนนี้คือมาจากยูทูบเบอร์ต่างชาติที่เขารีวิวเมืองไทยได้น่ารัก และนั่นยังทำให้ไทยยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใครต่อใครอยากมา อย่างที่เคยบ่นบนเฟสว่า เพราะผู้ใหญ่ไม่เข้าใจคำว่า Soft power ดีพอ เลยให้การทำงานออกมามันประดักประเดื่อง นโยบายเลยออกมาเป็น Hard power ไปโดยปริยาย เช่น การออกแบบเกงช้างลายประจำจังหวัด นั่นมัน OTOP นะ ใครสอนให้ใช้เรียก Soft power กัน 

จริงๆ Soft power มันไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ยาก ถ้ารัฐจะให้การสนับสนุนจริงๆ ดูงานได้จากเกาหลี จากประเทศที่ไม่มีอะไร มาถึงตอนนี้เขาสถาปนาตัวเองเป็นจ้าวต่างๆไปเรียบร้อยแล้วนะ จ้าวแห่ง Entertainment, จ้าวแห่งผักดอง, จ้าวแห่งผักห่อ, จ้าวแห่งหมูสามชั้น ฯลฯ แล้วคือการเคลมของเขาก็ไม่อาจโต้แย้งได้ เพราะเขาทำให้เห็นอย่างนั้นจริงๆ  ซึ่งการที่จะมาถึงจุดนี้ได้ คนเขาก็สู้ รัฐเขาก็สนับสนุน ถ้ายังจำกันได้ในยุค 90 ทางเกาหลียังส่งทีมงานมาดูงานเพลง แฟชั่นของไทยอยู่เลย แล้ว 30 ปีให้หลังเขานำหน้าไทยไปเยอะมาก และกลายเป็นไทยที่วิ่งตามเขา ในช่วงต้นๆของวงการ k pop เขาไม่อายที่จะก๊อปปี้คนอื่น แต่เขายังคงมั่นใจและพัฒนามาจนเป็นทุกวันนี้ ถ้าให้วิเคราะห์กัน ในความคิดเห้นของเรา เราว่าไทยยังคงไม่เชื่อในตัวเองมากพอ ไทยมักมองว่าสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองเป็นมันล้าหลัง และมักวิ่งหาสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเจ๋ง เลยทำให้เราติดนิสัยวิ่งตามหลังคนอื่น 

เหมือนวัฒนธรรมอิสาน ที่ต่อสู้กับการดูถูกเหยียดยาม ความบ้านนอก ถูกผลักเป็นพลเมืองชั้นรากหญ้ามาตลอดกาล แต่เมื่อ 10 -15 ปีมานี้ ด้วยความเป็นหนึ่งของชาวอิสานด้วยกัน ความสนุก ความไม่อายที่จะเป็นคนอิสานทำให้ความเป็นอิสานเข้มแข็งขึ้น อย่านะ เมื่อก่อนนี่ใครกินส้มตำปลาร้านี่ถูกสาปมาก พูดอีสานในพื้นที่สาธารณะยังถูกเดินหนี ถูกผลักออกจากกลุ่มหรือเป็นตัวตลก ก็เคยมาแล้ว  การต่อสู้นี้สิ้นสุดลงและเห็นภาพได้ง่ายจากหนังจักรวาลไทบ้าน ที่คนทุกภาคพร้อมตบเท้าเข้าโรงดู ไม่ได้นึกรังเกียจโดยเฉกเช่นสมัยก่อน แล้วนายกก็มาเคลมเอา Soft power ง่ายๆ ด้วยการใส่ชุดไทยเข้าไปดู เดี๋ยววววววววววว ....กรอกตาบนแป๊ป 

ประเทศจีน เรารู้กันอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งผลิตสินค้าคุณภาพต่ำของโลก แต่ทำไมยังขายได้ และขายดี เทศกาล 11.11 นี้คือช่วงที่เงินไหลเข้าประเทศอย่างมหาศาล เพราะรัฐบาลจีนเขามองเห็นศักยภาพในการหาเงินไงล่ะ จะมีใครสักกี่คนที่รู้บ้างว่า รัฐบาลจีน สนับสนุนการส่งออกโดยการเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าขนส่ง โดยให้พ่อค้าแม่ค้ารับผิดชอบในการผลิตและจ่ายภาษี การจัดส่งจากจีนมาไทยกินระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์ ค่าขนส่งที่แสนถูก รวดเร็ว กับของที่ราคาไม่แพง ปัจจัยหลักเพียงเท่านี้ตลาดจีนก็ตีตลาดไทยได้วอดวาย โดยรัฐบาลไทยได้แต่นิ่งเฉย  เมืองไทยเป็นเมืองที่มีสินค้ามีคุณภาพขึ้นชื่อของโลก แต่ถ้ารัฐยังไม่ให้ความสำคัญกับ SMEs ปล่อยให้ผู้ประกอบการสู้กันเองแบบนี้ ก็อดเสียดายเงินที่จะเข้าประเทศไม่ได้ 

บางทีคำว่า Soft Power ก็ไม่ใช่แต่พูดๆกัน อาจต้องเข้าใจและดำเนินการให้ถูกวิธีด้วย Soft power สร้างขึ้นได้ ถ้าร่วมมือกันระวังภาครัฐและเอกชน  ส่งเสริมกันไป อยากเห็นคนต่างชาติเดินทางมากิน ส้มตำ ลาบ ก้อย แกงเหลือ ไส้อั่ว อยากเห็นไทยสถาปนาเป็นจ้าวแห่งการตำ, จ้างแห่งการแกง, จ้าวแห่งผัดเผ็ดร้อน บ้าง 

Soft power คือพลังกระตุ้นทางความรู้สึก เห็นแล้วหิว เห็นแล้วอยากใส่ เห็นแล้วอยากไป ซึ่งมันไม่ควรกระตุ้นแค่ต่างชาติ คนไทยก็ต้องการการถูกกระตุ้นเช่นกัน 

ตอนนี้หน่วยงานที่ทำหน้าที่ Soft power อย่างเข้มแข็งและสุดความสามารถคือเมียไทยในต่างแดน ผู้ที่นำวัฒนธรรมการกิน ประเพณี ไปเผยแพร่จนสามีและคนรอบตัวสามี เครซี่ไทยเป็นทิวแถว เนี่ย ชื่นชม


บ่นเรื่องอื่นบ้างหลังจากว้าวุ่นเรื่องตัวเองมาระยะนึง 

เดี๋ยวจะบ่นเรื่องการศึกษาไทย   


Friday, November 24, 2023

Freedom

 Attack on titan

จบแล้วววว มหากาพย์ยาวนาน 10 ปี สำหรับอะนิเมะเรื่องนี้ จำได้ว่าโอบุเป็นคนซื้อการ์ตูนเรื่องนี้ให้  (เล่ม 1)ยัดเยียดปนบังคับให้อ่าน เออ อ่านแล้วก็ติดจริงๆ 


จนกระทั่งฉายเป็นอะนิเมะแล้วก็เป็นแฟนเหนียวหนึบ ติดตามมาจนถึงตอนสุดท้ายเมื่อต้นเดือนพฤศจิกา ตอนจบนี้อึนใจมากจนรอให้ตกกระกอนก่อนค่อยเขียนถึง

เป็นเรื่องที่รักมาก อาจเพราะผูกพันธ์มากัน 10 ปีมั๊ง
และเฝ้ารอให้มีค่ายสักค่ายทำ 20th century Boy บ้าง อยากดูในเวอร์ชั่นอะนิเมะแบบนี้ 

.................................................

เมื่อมนุษย์กลุ่มสุดท้ายของโลกถูกขังในกำแพงหนาสูงเพื่อหนีจากพวกไททัน ยักษ์กินคนข้างนอก อยู่ภายในก็สงบสุขดีแต่ใจมันยังเจตจำนงค์อิสระที่อยากรู้ว่าโลกภายนอกนั้นยิ่งใหญ่เพียงไร จึงได้มีหน่วยสำรวจเกิดขึ้น ซึ่งในทุกการสำรวจแต่ละครั้งจะมีคนรอดกลับมาเพียง 1/3 เสมอ เกิดคำก่นด่า เกิดคำครหามากมายจากชาวเมืองที่เสียภาษี แต่ในเมื่อยังมีความหวังจึงไม่มีทางที่จะล้มเลิกง่ายๆ

จนกระทั่งกำแพงเมืองที่ว่าแข็งแกร่งได้ถูกทำลายโดยไททันมหึมา ความตื่นกลัวและการตื่นตัวทำให้หน่วยสำรวจมีความหมายมากขึ้น และมีความหมายขึ้นไปอีกเมื่อเอเรน เด็กหนุ่มในกลุ่มสำรวจเป็นไททันเสียเอง 

มนุษย์และความอยากรู้เป็นของคู่กัน ทั้งมนุษย์ในเรื่องและมนุษย์คนดูอย่างเรา ความสงสัยของการกำเนิดไททัน  การกำจัดไททัน โลกภายนอก ทะเล หิมะ อิสระบนฟากฟ้า  อิสระแห่งการใช้ชีวิตมันช่างยิ่งใหญ่ แต่การถูกจำกัดภายในกำแพงเพราะความเชื่อที่ว่าภายนอกอันตรายมันไม่พอ การปฏิวัติความเชื่อจึงเกิดขึ้น 


ส่วนที่ 1 เอเรน มิคาสะ อาร์มิน เป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก โดยมีเอเรนเป็นหัวโจก มิคาสะเด็กสาวจอมพลังเป็นมือขวา และมีอาร์มินผู้ปราดเปรื่องเป็นคู่หู ทั้ง 3 คนอาศัยอยู่ในเขตที่ 1 จนกระทั่งกำแพงได้ถูกทำลาย การสูญเสียบิดา มารดา ครอบครัวทำให้ทั้ง 3 เข้าร่วมกลุ่มสำรวจนอกกำแพงด้วยจุดประสงค์ต่างกัน เอเรนต้องการทำลายไททันทุกตัวบนโลกนี้เพราะไททันกินแม่เขา มิคาสะต้องการติดตามเอเรนที่เป็นครอบครัวหนึ่งเดียว ส่วนอาร์มินนอกจากติดตามเพื่อนรักทั้งสองแล้วยังต้องการเห็นทะเลสักครั้ง

ในส่วนที่หนึ่งนี้ เราจะรู้จักไททันผ่านสายตาชาวเมืองเอลเดีย เห็นการฝึกซ้อม การตั้งรับ การสูญเสีย ความเชื่อ ความเห็นแก่ตัว การบ้าอำนาจ การเมืองที่เข้มข้น ซึ่งพอดูแล้วก็ร้องเอ๊ะขึ้นเป็นระยะๆ เพราะเหมือนที่ตนประสบอยู่ในทุกวัน เมื่อจู่ๆเอเรนกลายเป็นไททันไม่รู้ตัว แต่เป็นไททันบรรพบุรุษที่ช่วยให้เมืองรอดพ้นอันตราย เอาล่ะ การแก้ปริศนาไททันเอเรนได้เกิดขึ้น ภารกิจบุกห้องทำงานใต้ดินของพ่อเอเรนที่เป็นหมอสำเร็จ เราได้รู้ความลับอีกด้านหนึ่ง 

ส่วนที่ 2  “จากนั้นการสร้างจักรวรรดิเอลเดียเริ่มต้นขึ้น เอลเดียบุกทำลายมาเลย์จนสามารถยึดครองดินแดนได้สำเร็จ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของยุคมืด ร่างแยกที่ได้รับพลังไททันรุกรานเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่ด้อยกว่าและเริ่มกดขี่พวกเขา ขโมยที่ดิน ทรัพย์สิน กำจัดประชากรทิ้ง บังคับให้เผ่าพันธุ์อื่นคลอดลูกเพื่อเพิ่มจำนวนผู้สืบทอดพลังไททัน จนกระทั่งชาวมาเลย์ได้ออกอุบายทำลายจากภายใน อีกทั้งยังสามารถควบคุมพลังไททัน 7 ใน 9 จนเอาชนะสงครามไททันได้สำเร็จ กษัตริย์ฟริทซ์จึงอพยพชาวเอลเดียไปยังเกาะสวรรค์แล้วสร้างกำแพงสามชั้นให้ผู้คนอาศัยอยู่ในนั้น”

นี่คือเรื่องเล่าชาวแผ่นดินใหญ่ที่ชื่อมาเรย์เล่าให้ลูกหลานฟังสืบมา ชาวเอลเดียส่วนหนึ่งที่อาศัยในเมืองมาเรย์เป็นพลเมืองชั้นสอง ถูกดูถูก เดียดฉันท์ อย่างรุนแรงชนิดที่ไม่คาดคิดว่านุษย์จะทำกันได้ ทำให้ชาวเอลเดียต้องถีบตัวเองขึ้นมาให้เท่าเทียมกับชาวเมืองอื่นโดยการเข้าร่วมรบและเป็นไททัน โดยในการเป็นไททันนั้นครอบครัวจะได้รับเกียรติและถูกปฏิบัติเป็นอย่างดี โดยชาวเอลเดียก็แบ่งเป็น 2 พวก พวกแรกคือคนที่ขึ้นตรงกับชาวมาเรย์ พวกที่ 2 คือคนที่ต้องการฟื้นฟูกำลังชาวเอลเดียกลับมา ซึ่งในส่วนที่ 2 นี้เราจะเห็นการทรยศ หักหลัง ผลพวงของ Propaganda ที่นำไปสู่การเกลียดชัง 

ส่วนที่ 3   เมื่อเอเรนรับรู้ถึงชาติกำเนิด ความเกลียดชังที่ชาวเอลเดียถูกกระทำ ความรักที่มีต่อพวกพ้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย เขาต้องการจบปัญหา จึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำสงครามกับคนทั้งโลก

.......................................................

AOT นี้เป็นอะนิเมะที่แฟนซี ผสานกับเรื่องราวประวัติศาสตร์มนุษย์ได้อย่างแยบคาย ความบ้าครั้งในอำนาจ การแบ่งชนชั้น ความเชื่อ การเมือง การกดขี่ และการปลดปล่อย เอาละในเมื่อมันไม่ใช่อะนิเมะไทยเราก็ต้องยอมรับว่าการเมืองที่แสนสกปรกนั้นมีทุกประเทศ 

สิ่งที่ทำให้เรารักและผูกพันธ์ตัวละครมากคือการที่อาจารย์ ฮาจิเมะ ลำดับเรื่องราวให้เรารู้จักตัวละครและใส่ใจในรายละเอียด ผูกเรื่องราวชนิดที่เมื่อย้อนกลับมานั่งดูอีกครั้งก็ร้อง ว้าว  การตัดสินใจของตัวละคร บทบาทความรับผิดชอบ ความสมจริงในการตัดสินใจนั้นๆ การได้นั่งดูเด็กกลุ่มหนึ่งผ่านเรื่องราวร้ายๆ เติบโตเหลือรอดมาจนโลกสงบสุขก็อดปลื้มใจไม่ได้ ค่ะ ใครอยากเป็นแม่ยก Blackpink BTS ก็เป็นไป นี่แม่ยกกลุ่มสำรวจ   ทุกตัวละครมีสีเทาแต่จุดประสงค์คือเพื่อเผ่าพันธุ์ตัวเอง นั่นทำให้บางตัวละครรักไม่ได้แต่ก็เกลียดไม่ลง 

ยกเครดิตให้ MAPPA สตูดิโอผู้สร้าง 2 มิติออกมาเป็น 3 มิติ และทำอออกมาได้ดีด้วย ใครที่เคยคิดว่าอะนิเมะมันเด็กๆ ขอให้ดูฉากเปิดตัวโหนตัวโรยตัวต่อสู้กับไททันในภาคแรกก่อน แล้วการดูอะนิเมะจะเปลี่ยนไปตลอดกาล (นับจากฉากนี้ออกไปกลายเป็นว่าอะนิเมะค่ายอื่นๆก็ใส่พลังกันเต็มที่ไปเลย)  ทางค่ายทำงานเต็มที่และอย่างดีมาก กราบงาม ถึงแม่ตอนนี้มีข่าวว่าเอาเปรียบพนักงานก็เถอะ 555+

................................................

ในเรื่อง เราเฝ้าสงสัยมาตลอดว่าเอเรนรักมิคาสะบ้างไหม เพราะมิคาสะนี่คลั่งรักเอเรนทุกลมหายใจ จนกระทั่งตอนจบนี่แหล่ะที่เอเรนคุยกับอาร์มินในสายธารความทรงจำ ถึงทำให้รู้ว่ารักมาก รักมาตลอด หวงมากด้วย แต่แสดงออกไม่ได้เพราะจะผิดแผน ทำได้แต่นิ่งใส่ งืออออออออออออออ อยากให้พูดให้มิคาสะได้ยินสักครั้ง




อีกตัวละครที่ชอบมาก แพ้ทางมากคือ เออร์วิน สมิธ หัวหน้ากองสำรวจฝีมือเทพ รักพวกพ้อง เข้มขรึม ฉลาด มีความรับผิดชอบ และมีเป้าหมาย แพ้มาก แพ้จริง ฟีลแด๊ดดี้ใจดี เออ ทำไมแพ้ผู้ชายอย่างนี้ก็ไม่รู้


อีกคนที่ละสายตาไม่ได้คือรีไว (สำอร) นี่เอง ด้วยสายเลือดแอคเคอร์แมน ทำให้เก่งเกินมนุษย์มนา บุคลิกเข้มขรึม ปากดี ท้าตีทุกคน แต่บูชาเออร์วิน มีชีวิตอยู่เพราะคำสัญญาที่ให้กับเออร์วินว่าจะแก้ไขปริศนาไททันให้ได้ เป็นคนที่เด็กหมั่นไส้และรักในเวลาเดียวกัน ทำไมสร้างตัวละครได้มีเสน่ห์ขนาดนี้ก็ไม่รู้ 


 จริงๆชอบหลายตัวละครเลยแต่ชอบสุดคือเออร์วิน ชอบตัวละครชายที่พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็มีซิกแพคทุกคน เอ็นดู

เอาไว้ใจดีๆ จะดูอีกรอบ ตอนจบนี่ทำป้าช้ำใจมากไป 

Monday, November 20, 2023

Home Again


 

Gouche painting

เพิ่งได้สี Gouche มาใหม่ค่ะ กำลังหัดเล่น จริงๆเลยเรียนมาบ้างแล้วไม่ถูกจริต ชอบสีน้ำ สีอะคลิลิค สีน้ำมันมากกว่า แต่จู่ๆก็นึกอยากวาดขึ้นมาเลยสั่งมาลองเล่นดู 

สี Gouche หรือสีโปสเตอร์  ( อังกฤษเรียก poster colors / ฝรั่งเศส เรียก Gouche) เป็นสีน้ำทึบแสง ดังนั้นการวาดจะเป็นแบบระนาบเดียว คือการทาสีทับไปทีละชั้นๆ จะไม่สามารถเบลนด์ได้อย่างสีน้ำหรือสีน้ำมัน 

ความเคยชิน เราก็จับเบลนด์ใหญ่เลย จนต้องหยิกตัวเองเป็นระยะๆว่า เฮ้ย นี่คือสีกวชนะ มีสติหน่อยยยย 

สีกวชก็มีเสน่ห์แบบน่ารักๆ ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน  เลยอยากเอามาลองเล่นดูสักที ชอบ texture ด้วย มันดูไม่ Perfect 


วาดเพื่อประกอบการขายเข็มกลัดใน Poochi Something

ส่วนข้างล่างนี้เราดึงภาพมาจาก Pinterest เอาไว้ใช้เป็นเรฟในการวาด จะได้ไม่ลืมตัวอีก









น่ารักเนาะ

.................................................................................................................................

โปรเจคตอนนี้
- ออกแบบลายผ้า
-ออกแบบลายปฏิทินผ้า (ช้าไปแล้ว)
-ออกแบบโปสการ์ด

โดยใช้สีกวชนี่แหล่ะ คอลเลคชั่นถัดไปค่อยกลับไปใช้เทคนิคอื่น เรายังคงชอบวาดมือมากกว่าใช้โปรแกรมวาดรูป ยังคงชอบความไม่สมบูรณ์แบบของสี  

ตอนนี้ .AI เข้ามามีบทบาทในการออกแบบมากขึ้น เราก็ได้แต่บอกน้องไปว่า ท้ายที่สุดแล้วความกลมกล่อมของศิลปินคือจุดแข็งที่ .AI สู้ไม่ได้ วาดต่อไปเถอะ ฝึกต่อไป อย่าได้หยุด มันก็เหมือนเราฟังเพลงจากโปรแกรมแต่งเพลงกับใช้เครื่องดนตรี ยิ่งกับนักดนตรีที่มืออาชีพ ความละมุนหูก็ต่างกัน  เหมือนน้ำแกงจากซุปก้อนสำเร็จรูปกับการใช้ไฟเคี่ยวอ่อนๆ ความละมุนลิ้นก็ต่างกัน เข้าใจตรงนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว 

เพราะสุดท้ายแล้วก็อยู่ที่คนเสพงาน ว่าเขาต้องการเสพแบบผิวเผินหรือความสุนทรีย์  ก็อยู่ที่เขาเลือกเท่านั้นเอง



  


Sunday, November 5, 2023

อนุญาตให้ตัวเองรู้สึก

เมื่อวันก่อนไปทานข้าวกับพี่โน๊ตมา หลังจากไม่เจอหน้ากัน 3-4 ปี ปรับสารทุกข์สุขดิบกันตามประสา ช่วงหนึ่งเราคุยกันถึงเรื่องความรู้สึกแย่ๆ และเราสับสนว่าเราควรรู้สึกอย่างนี้จริงเหรอ พี่โน๊ตพยักหน้าเหมือนเข้าใจในสิ่งที่เรารู้สึก และพูดขึ้นมาว่า  จงอนุญาตให้ตัวเองรู้สึก เมื่อรู้ตัวว่ารู้สึกอย่างไรแล้ว มันจะจัดการความรู้สึกนั้นได้เอง เหมือนรู้เท่าทันตน

อนุญาตให้ตัวเองรู้สึก ?!?

จริงๆเราได้ยินคำๆนี้มานานมากแล้ว จากจิตแพทย์และฮาวทูต่างๆ เราเข้าใจมาตลอดแต่เหมือนหลงลืมว่าเราสามารถอนุญาตให้ตนเองรู้สึกได้ ไม่ว่าจะรู้สึกโกรธตนที่เรารัก รู้สึกเกลียดคนที่เราเคารพ รู้สึกชังน้ำหน้าคนที่เราหวังดีหรือหวังดีกับเรา รู้สึกผิดในสิ่งที่เราทำลงไป รู้สึกเหนื่อย รู้สึกว้าเหว่ รู้สึกด้อยค่า รู้สึกรักในคนที่ไม่สมควรจะรัก

ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไรอย่าไปผลักดัน กดทับ หรืออับอายที่จะปล่อยใจไปตามความรู้สึก เพียงแต่ต้องมีสติและจัดการกับมันให้ได้  อย่างน้อยเราโชคดีที่เรารู้ตัวว่า ณ เวลานี้เรารู้สึกอย่างไร เหมือนการปลดปล่อยตัวเอง ล่องลอยมัวเมาให้เต็มที่ดีกว่าการหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร
.................
ซื้อสี goach color มาลองใช้ดู ฟีลสีโปสเตอร์  เพราะชอบความทึบแสงและสองมิติ แต่วาดไปไม่กี่ภาพก็ยังไม่ได้แตะอีกเลย ช่วงนี้มีอะไรต้องจัดการหลายอย่าง การสร้างธุรกิจเพียงคนเดียวไม่ง่ายเลยจริงๆ 

รอมาตลอดหน้าฝนให้ถึงหน้าหนาวเร็ววัน แต่พอเข้าหน้าหนาวจริงๆกลับคิดถึงหน้าฝนเสียอย่างนั่น อากาศร้อนชื้น ไอร้อนแผดเผา ใบไม้แห้ง ต้นผักสลัดขาดนำ้ทำให้รสชาติขมปี๋  

อยากตัดใครสักคนแต่เหมือนเวรกรรมที่ต้องคอยคิดถึงเขาอยู่ร่ำไป แต่อนุญาตให้ตนเองรู้สึก เพราะหมอดูบอกว่าเดือนพฤศจิกายนจะมีใครสักคนเข้ามา ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่เขาคนนั้นจะคอยซัพพอร์ทเราในทางที่ดี จะเป็นความรักที่ดี ❤️ อะ รอ
......................
ท้ายที่สุดแล้ว การปล่อยใจสู่เสรีให้ตนเองรู้สึกอะไรก็ได้ มันคือการปลดปล่อยพันธนาการทางความรู้สึก ไม่รั้ง ไม่กดทับ ไม่แบกรับ ไม่เหนื่อยเสแสร้งว่าไม่เป็นไร จงรู้สึกอย่างที่ใจรู้สึก รู้สึกเพื่อตัวเอง รู้สึกเพื่อคนอื่น รู้สึกเพื่อที่ตัวเองในวันนี้จะก้าวข้ามตัวเองในอดีตเพื่อไปหาตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าในอนาคต 

ทิ้งตัวเองในเวอร์ชั่นอิโก้จัด กลัวเสียหน้า กลัวด้อยค่า กลัวคนอื่นดูถูกทิ้งไป อนุญาตให้ตัวเองลูสเซอร์ เพราะเราในเวอร์ชั่นอัพเกรดจะเป็นรุ่นพิเศษลิมิเต็ดแน่นอน 

หวังว่าตัวเองจะรู้จักปล่อยวางในสักวัน


Kitchen for single

วันนี้มาแนะนำซีรีย์สั้นๆ  Kitchen for single ค่ะ  มี 12 ตอน ตอนละ 8-9 นาที  เป็นเรื่องราวของสาวน้อยคนนึงที่อาศัยในห้องพักขนาดเล็ก ที่มีครัวเ...