ฉันอมยิ้มให้กับคำตอบนั้น เป็นการแสดงถึงความเอาอกเอาใจ อ่อนโยนในรูปแบบของเขา ชายที่แข็งกร้าว ไม่อ่อนหวานนัก
.......
เมื่อสิ้นฤดูหนาว อากาศเริ่มร้อนอบอ้าว ต้นบ๊วยที่ภาคเหนือเริ่มทะยอยแข่งกันโต เพจในสื่อโซเซียลโพสประกาศหาเจ้าของ เหมือนเทศกาลล่าสัตว์ ลูกใหญ่ราคาหนึ่ง ลูกเล็กราคาหนึ่ง บางเจ้าหัวใสเร่งขายลูกอ่อนจนใช้การไม่ได้ก็มี
หลังจากที่ผิดหวังจากการโดนโกงไปเมื่อปีที่แล้ว กว่าจะได้เงินคืนมาก็หมดอารมณ์ในความตั้งใจ ปีนี้เลยสั่งซื้อจากเพื่อนที่อยู่ภาคเหนือส่งมาให้ ทะยอยล้างน้ำ ค่อยๆคัดลูกเสีย บรรจงแคะขั้ว ผึ่งลมให้แห้ง
ล้างขวดโหลที่เตรียมไว้ปีที่แล้วให้สะอาด คว่ำไว้ให้แห้งสนิท ใส่บ๊วยลงไปสลับกับน้ำตาลกรวดในอัตราที่เท่าๆกัน ฉันเป็นคนไม่มีสูตรอะไรตายตัว อาศัยดวงล้วนๆ เมื่อเต็มโหลแล้วจึงเทเหล้าขาวลงไป ปีนี้ใช้เหล้าขาวรวงข้าวทอง อีกโหลใช้วอดก้า ปิดฝาสนิทเจอกันอีกทีปีหน้าหรือปีถัดไป ยิ่งดองนานยิ่งกลมกล่อม ละมุนลิ้น
อีกโถดองน้ำเชื่อม ปีนี้ดองโหลใหญ่กว่าปีก่อนโน้น หลังจากประสบความสำเร็จจากการนำน้ำเชื่อมบ๊วยมาทำอาหารหรือขนมต่างๆ มาคราวนี้เลยดองเก็บไว้เยอะสักหน่อย เพื่อได้ใช้นานๆ
ก่อนจะยกโถดองทั้งหมดเข้าไปเก็บในที่พ้นสายตา ที่ๆเดียวกันกับโถดองเก่าก่อนหน้านั้น
โถดองเหล้าเก่าเก็บร่วม 2 ปีที่ตั้งใจเก็บไว้ให้เขายังไม่ได้ถูกเปิดออก ยังถูกเก็บไว้ในซอกลึกเงียบๆที่เดิมอย่างเจียมตัว เฝ้ารอเจ้าของที่ป่านนี้อาจลืมไปแล้ว
......
"เราไม่ถนัดเหล้าบ๊วย แต่ถ้าเป็นของเธอเราจะรอชิม"
เสียดายที่วันนั้นไม่เคยมาถึง
No comments:
Post a Comment