คนเรานี่กว่าจะมีเป้าหมายของตนเองต้องใช้เวลานานแค่กันนะ
หลังจากออกจากงานมาได้สักพัก ฉันยังไม่เริ่มอะไรเลยสักอย่าง ปล่อยให้จิตใจและสมองเคลียร์พลังงานลบตกค้างออกให้หมด เพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างเสรี ช่วงเวลานี่แหล่ะ ที่เป็นช่วงพบปะผู้คน เจอเพื่อนเก่า คนรู้จักเก่าๆ ถามอัพเดทชีวิตความเป็นไป
' อ๋อ ลาออกมาทำในสิ่งที่อยากทำน่ะ งานที่ทำอยู่มันไม่ใช่ '
พอบอกอย่างนี้ไป ทุกคนยกฉันเป็นไอดอลขึ้นทันที ( ปกติก็ไอดอลเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ละ นี่ยังมาเป็นไอดอลเรื่องลาออกจากงานอีก ) ทุกคนรอบข้างล้วนจำใจทนในสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ใช่ ไม่กล้าตัดสินใจเพราะภาระหน้าที่ที่แบกรับ บ้างก็ไม่รู้จะออกมาทำอะไร
ฉัน ผู้ซึ่งมีเป้าหมายตลอดแต่ก็เหมือนคนทั่วไป ไม่กล้าลงมือทำเพราะกลัวผิดหวัง ล้มเหลว เสียดายตังค์ ไม่มีต้นทุน จนกระทั่งสถานการณ์หลังชนฝานั่นแหล่ะจึงทำให้ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า ถึงได้บ้าบิ่นลาออกจากงานที่มั่นคง
พอออกมานั่งนิ่งๆ บื้อๆ ถึงได้รู้แล้วว่า สิ่งที่กลัวมาตลอดมันไม่ได้น่ากลัวเลยนะ แค่ลาออกมาลองทำ ถ้าไม่เวิร์คก็กลับไปหางานใหม่เท่านั้น มนุษย์เราล้วนเกิดมาดิ้นรนทั้งนั้น และโอกาสก็ไม่ได้ยาก ถ้าเรามีความสามารถมากพอ การอยู่ในที่ๆเรายึดติดต่างหากที่น่ากลัว น่ากลัวว่าท้ายที่สุดแล้วจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ใจต้องการ
ทำอาหารที่เป็นแพชชั่น อ้อยอิ่งการเลือกหนังสือมาอ่าน จับพู่กันวาดภาพตามใจปราถนา นอนเท่าที่อยากนอน ออกไปเจอเพื่อนด้วยพลังงานที่ล้นปรี่ ...ชีวิตมันดีมากจริงๆ
พักเต็มที่ ได้เวลาหาเงินสักที ...